Rainbow Lucky Charms

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

6 ธันวาคม 2557



โทรทัศน์ครู
จุดประกายความคิด
เรื่องภาชนะจากเส้นใยธรรมชาติ

โดยคุณครูอรพิน  อินทรโฆษิต  โรงเรียนชลบุรี  สุขบท


       โดยรุ่นพี่ผลักดัน  วิธีการทำวิจัย  โครงงานวิทยาศาสตร์ให้รุ่นน้อง   ผ่านการทำโครงการวิทยาศาสตร์โดยมีพี่ๆเป็นคนสอนน้องๆ  โดยครูอรพินกล่าวว่าเทคนิคการสอนหรือสื่อการสอน  ซึ่งการสอนโดยสื่อวิทยาศาสตร์ก็เป็นเทคนิคการสอนใหม่ๆ  เพราะปัจจุบันทำให้เด็กเกิดทักษะต่างๆ  เช่น  ทักษะการคิด    ทักษะการวิเคราะห์    ทักษะการใช้คำถาม  ทักษะการทำงาน   ทักษะกระบวนการกลุ่ม    งานวิทยาศาสตร์จึงเปรียบเสมือนโปรเจ็คอย่างหนึ่งที่เด็กได้ทำเอง   เพราะเด็กได้นำความรู้ความสามารถของตนเองออกมา  ไม่ว่าจะเป็น  ภาษาไทย   ภาษาอังกฤษ   ศิลปะ    
        เทคนิคแบบโครงการจึงเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่สามารถนำมาพัฒนานักเรียนได้   แล้วยังบอกอีกว่า  โครงการวิทยาศาสตร์มีทั้งหมด   4   ประเภท 
1.โครงการแบบสำรวจ  
2.โครงการเเบบทดลอง
3.โครงการสิ่งประดิษฐ์
4.โครงการทฤษฎี  ( ยากสุด )
   หลังจากนั้นครูให้นักเรียนเเบ่งกลุ่ม   และให้คิดโครงการของกลุ่มตนเอง   โดยมีรุ่นพี่มาสอนและให้ความรู้ โดยสอนให้ความรู้เรื่อง   ภาชนะจากเส้นใยธรรมชาติ   ซึ่งรุ่นพี่ได้รับรางวัลระดับประเทศ


 ที่มา 
  
    ปัจจุบันเกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งเกิดจากการทำลายของมนุษย์  ทั้งการทิ้งขยะ  การตัดไม้ทำลายป่า  การใช้ถ้วยโฟม   แล้วมลพิษต่างๆ ที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกหรือภาวะโลกร้อน   ดังนั้นจึงมีไอเดียขึ้นมาว่า  ถ้าเรานำพืชมาทำเป็นภาชนะแทนถ้วยโฟม เราก็จะสามารถลดภาวะโลกร้อนได้    ดังนั้นในการทำภาชนะจากเส้นใยธรรมชาติก็จะใช้พืชดังต่อไปนี้  




    1.สับปะรด





    2.ชานอ้อย





    3.ผักตบชวา  


        และใช้สารอีก 3  ชนิดเพื่อช่วยในการเปื่อยยุ่ยให้มากที่สุด   คือสารละลายขี้เถ้า   สารละลายมะกรูด    สารละลายสับปะรด  



  สารละลายขี้เถ้า





  สารละลายมะกรูด




    สารละลายสับปะรด


    โดยมีเปลือกส้มโอเป็นตัวสกัด  เพราะเปลือกส้มโอมีสารเเพคติน  ซึ่งทำให้มีความเหนียว 




  เปลือกส้มโอ



วิธีการทำ

นำเส้นใยมาทำเป็นแผ่นชนวน  โดยนำผักตบชวาไปต้มกับน้ำขี้เถ้า   แล้วทิ้งไว้  2  ชั่วโมง  หลังจากนั้นนำไปผสมกับกาว กาวมี  3  ชนิด คือ กาวเเป้งมัน  กาวข้าวเหนียว  กาวมะขาม 
 ( กาวมะขามจะเหนียวมากที่สุด )


    

    กาวแป้งมัน





   กาวแป้งข้าวเหนียว




    กาวมะขาว  ( เหนียวที่สุด )


       โดยนำมาสกัดกับเปลือกส้มโอ  ก็จะได้ภาชนะที่ยับยั้งการซึมของน้ำ   และได้ภาชนะที่อุ้มน้ำได้ดี   แล้วน้องๆก็นำไปเป็นตัวอย่างโครงการของกลุ่มตนเอง  เช่น  กลุ่มโครงการไอโอซีท   โครงการไบโอดีเซล   โครงการการทำยาสระผมจากพืช    การทำน้ำยาล้างจาน   เป็นต้น   
     โดยรุ่นพี่กล่าวว่าทุกๆสิ่งล้วนนำมาจากของเหลือใช้ทั้งหมดที่มีในท้องถิ่น   และวัสดุจากธรรมชาติ  


ความรู้ที่ได้รับ 

     ความรู้ที่ได้รับคือ ทราบถึงการทำโครงการ และการนำวัสดุจากท้องถิ่น  วัสดุจากธรรมชาติไปใช้ให้เกิดประโยชน์  และความรู้นี้สามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนในอนาคตได้ และเราสามารถนำไปใช้สร้างรายได้สร้างอาชีพได้  อีกทั้งยังได้ประสบการณ์ที่ดีในการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง   


หลังจากเสร็จกิจกรรมอ่านบทความที่ตนเองนำมาเสนอ  วันนี้อาจารย์ผู้สอนก็นำกิจกรรมเกี่ยวกับการทำอาหารมาให้นักศึกษาได้ทดลองทำ  โดยสัปดาห์นี้เป็นการทำการทดลอง  เรื่องคุณสมบัติของน้ำ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้





งานวิจัยวิทยาศาสตร์

เรื่องการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย


ผู้เเต่ง

นางยุพาภรณ์  ชูลาย


ชื่อเรื่อง


การเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย


จุดมุ่งหมาย


1.เพื่อศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย

2.เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติก่อนและหลังการทดลอง


ตัวเเปรต้น 
เรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติ
ตัวแปรตาม
ที่มีผลต่อทักษะพื้นฐานของเด็กปฐมวัย

นิยามศัพท์เฉพาะ
เด็กปฐมวัย  หมายถึง   เด็กปฐมวัยชาย  หญิง  อายุระหว่าง 5-6 ปี  ศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 3  ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนเทศบาล 2 สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์  อำเภอเมือง  จังวัดเพชรบูรณ์

ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์

1.ทักษะการสังเกต   หมายถึง เด็กสามารถบอกความเเตกต่าง  บอกลำดับวัตถุ  จัดสิ่งของให้เป็นหมวดหมู่  โดยใช้เกณฑ์ในการจัดเเบ่ง
2.ทักษะการจำเเนกประเภท  หมายถึง  ความสามารถในการแบ่งพวก  เรียงลำดับวัตถุโดยมีเกณฑ์   เกณฑ์ดังกล่าวอาจจะใช้  ความเหมือน  ความเเตกต่าง  หรือความสัมพันธ์ อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
3.ทักษะหามิติสัมพันธ์  หมายถึง   ความสามารถในการบอกความสัมพันธ์ในการบอกความสัมพันธ์ในมิติต่างๆ  ได้แก่ รูปร่างหรือรูปทรง  ขนาด

สมมุติฐานงานวิจัย
      เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติ   มีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สูงขึ้นกว่าก่อนการทดลอง

วิธีการดำเนินการวิจัย

1.กำหนดกลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยครั้งนี้คือ  เด็กปฐมวัยชาย  หญิง  อายุระหว่าง  5-6 ปี  ศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 3  ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนเทศบาล 2 สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์  อำเภอเมือง  จังวัดเพชรบูรณ์ มีขั้นตอนในการเลือกกลุ่มตัวอย่างดังนี้
 1.1 เลือกกลุ่มตัวอย่างจากนักเรียน 6 ห้องเรียน  โดยจับฉลากมา 1 ห้องเรียนโดยได้นักเรียนชั้นอนุบาล 3/1  จำนวน 30 คน
 1.2 จากกลุ่มตัวอย่างในข้อ 1 สุ่มอย่างง่ายอีกครั้ง

2.เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย
-แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติ
-แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์
3.ขั้นตอนการวิจัย
-ขอความร่วมมือผู้บรหารโรงเรียนในการทำวิจัย
-ชี้แจงให้ครูประจำชั้นทราบรูปแบบงานวิจัย  และขอความร่วมมือ
-สร้างความคุ้นเคยกับเด็กกลุ่มตัวอย่างเป็นระยะเวลา  3 สัปดาห์
-ก่อนทำการทดลองผู้ทำการทดลองวิจัยต้องทดลองการทำก่อน
-ดำเนินการทดลองโดยการใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติ ที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์   ระหว่างวันที่ / สิงหาคม 2554 ถึง 22  กันยายน 2554 ใช้เวลาในการทดลอง  8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ  3  วัน  ได้เเก่ วันจันทร์  พุธ  ศุกร์  วันละ  40 นาที   ในช่วงกิจกรรมเสริมประสบการณ์ เวลา 09.00 - 09.40 น. รวมทั้งสิ้น 24 ครั้ง
-เมื่อเสร็จสิ้นการดลอง  8 สัปดาห์  ประเมินหลังการทดลองด้วยแบบทดสอบวิทยาศาสตร์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น  pre - Test เพื่อเปรียบเทียบก่อน หลังการทดลอง และใช้คะเเนนเป็นตัววิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีทางสถิติสมมุติฐานเพื่อนสรุปงานวิจัยต่อไป

สรุปผลการวิจัย

1.ก่อนใช้แผนการจัดกิจกรรมเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติ  เด็กปฐมวัยมีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์อยู่ในระดับปานกลางทั้งโดยรวมและจำเเนกทักษะ  หลังจากการใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติเด็กปฐมวัยกลุ่มตัวอย่างอยู่มีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งโดยรวมและจำเเนกรายทักษะอยู่ในระดับมากที่สุด
2.หลังการใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติเด็กปฐมวัยีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สูงขึ้นกว่าก่อนใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติทั้งโดยรมและรายทักษะอย่างมีนัยสำคัญจากสถิติที่ลำดับ 01


ประเมินตนเอง 

ในสัปดาห์นี้ให้คะเเนนตัวเอง 90 คะเเนน เพราะตั้งใจเรียน แต่งกายเรียบร้อย   และมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในห้องเรียน  และร่วมกิจกรรมที่คุณครูผู้สอนนำมาให้ทำ และมีความพร้อมในการนำบทความมานำเสนอหน้าชั้นเรียน

ประเมินเพื่อน

ในรายสัปดาห์นี้ให้คะเเนนเพื่อน 100 คะเเนน  เพราะเพื่อนตั้งใจเรียนและเเต่งกายเรียบร้อย  และมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในห้องเรียน  และร่วมกิจกรรมที่คุณครูผู้สอนนำมาให้ทำ

ประเมินครูผู้สอน  



ในรายสัปดาห์นี้ให้คะเเนนครูผู้สอน 100 คะเเนนเพราะครูสอนเข้าใจ  เเต่งกายเรียบร้อย  เเละเข้าสอนตรงเวลา  และนำกิจกรรมดีๆมาให้นักศึกษาได้ทำ

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

2 ธันวาคม 2557

สัปดาห์ที่ 15

วิชา  การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
อาจาร์ยผู้สอน อาจาร์ยจินตนา  สุขสำราญ
วันที่  25 พฤศจิกายน   2557
ครั้งที่ 15 กลุ่มเรียน  103
เวลาเรียน  08.30 - 12.20 น.  ห้อง 434




     ในรายสัปดาห์นี้อาจารย์ได้ให้นักศึกษาออกไปนำเสนองานหน้าชั้นเรียน โดยมีเกณฑ์การออกไปนำเสนองานดังต่อไป  หากนักศึกษาคนใดเลขที่คี่ ให้ออกไปอ่านบทความเกี่ยวกับโทรทัศน์ครู   แต่หากนักศึกษาคนใดเลขที่คู่ ให้ออกไปนำเสนองานเกี่ยวกับงานวิจัยที่อาจารย์ได้ให้ไปเตรียมมา   โดยดิฉันได้เลขที่คี่จึงนำเสนองานโทรทัศน์ครู  โดยโทรทัศน์ครูที่ดิฉันได้ไปดูมา เรื่อง   ภาชนะจากเส้นใยธรรมชาติ  และอาจารย์ได้มีกิจกรรมมาให้นักศึกษาทำเกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติของน้ำ คือการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นของเเข็ง  โดยมีวิธีการทำดังต่อไปนี้คะ






เรื่องคุณสมบัติของน้ำ




อุปกรณ์ในการทำ

1.กรวยตวงน้ำ
2.หม้อ
3.ช้อน ทับพี
4.น้ำเปล่า
5.น้ำหวาน น้ำเเดง
6.น้ำเเข็ง
7.ถุงพลาสติก
8.ยาง





วิธีการทำ

1.นำน้ำหวานผสมกับน้ำเปล่า





2. นำน้ำหวานที่ผสมกับน้ำเปล่าเรียบร้อยแล้วใส่ถุง 




3.นำที่ตวงน้ำมาช่วยใช้ในการตวงน้ำใส่ถุง




4.นำหนังยางรัดปากถุงให้แน่น



5.นำน้ำหวานที่ใส่ถุงมัดยางเรียบร้อยแล้ว  ใส่ลงในหม้อน้ำเเข็งที่เตรียมไว้









6.จากนั้นหมุนหม้อน้ำหวานไปมาซ้ายขวา  
ประมาณ10 -15 นาทีน้ำหวานจากสถานะของเหลว 
ก็จะเปลี่ยนสถานะเป็นของเเข็ง





เทคนิคการสอน

กิจกรรมนี้ดิฉันคิดว่าเป็นกิจกรรมที่ดี เพราเนื่องจากเด็กได้ลงมือปฎิบัติจริงแล้วเด็กยังได้รับความรู้จากการทำกิจกรรมนี้อีก   ซึ่งเด็กจะได้ทราบถึงการเปลี่ยนสถานะของน้ำที่เปลี่ยนจากของเหลวเป็นสถานะของของเเข็ง  และเรายังสามารถนำกิจกรรมนี้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กได้ในวิชาชีพครู  และถ้าเรามีความรู้มากๆ เราก็สามารถนำไปประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ตนเองได้อีกด้วย 



ประเมินตนเอง 

ในสัปดาห์นี้ให้คะเเนนตัวเอง 90 คะเเนน เพราะตั้งใจเรียน แต่งกายเรียบร้อย   และมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในห้องเรียน  และร่วมกิจกรรมที่คุณครูผู้สอนนำมาให้ทำ และมีความพร้อมในการนำบทความมานำเสนอหน้าชั้นเรียน

ประเมินเพื่อน

ในรายสัปดาห์นี้ให้คะเเนนเพื่อน 100 คะเเนน  เพราะเพื่อนตั้งใจเรียนและเเต่งกายเรียบร้อย  และมีส่วนร่วมในการตอบคำถามในห้องเรียน  และร่วมกิจกรรมที่คุณครูผู้สอนนำมาให้ทำ

ประเมินครูผู้สอน  

ในรายสัปดาห์นี้ให้คะเเนนครูผู้สอน 100 คะเเนนเพราะครูสอนเข้าใจ  เเต่งกายเรียบร้อย  เเละเข้าสอนตรงเวลา  และนำกิจกรรมดีๆมาให้นักศึกษาได้ทำ